EN TH
10 มีนาคม 2554

แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 และประกาศจ่ายปันผล

การพิจารณาปันผล เรื่อง : จ่ายปันผลเป็นเงินสด วันที่คณะกรรมการมีมติ : 10 มี.ค. 2554 ชนิดการปันผล : จ่ายปันผลเป็นเงินสด วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิปันผล : 24 มี.ค. 2554 (Record date) วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น : 25 มี.ค. 2554 ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 22 มี.ค. 2554 อัตราการจ่ายเงินปันผล อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด (บาทต่อหุ้น) : 1.00 มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาท) : 1.00 วันที่จ่ายปันผล : 26 พ.ค. 2554 งวดดำเนินงาน : วันที่ 01 ม.ค. 2553 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2553 หมายเหตุ : ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประชุมเมื่อบ่ายวันนี้ ได้มีมติเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2554 พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดหลัง สำหรับผลการดำเนินงานปี 2553 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตรา 1.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลปี 2553 รวมทั้งปีจ่ายในอัตรา 1.65 บาทต่อหุ้น (หนึ่งบาทหกสิบห้าสตางค์) หรือคิดเป็นจำนวนเงินรวม 3,300,000,000 บาท (สามพันสามร้อยล้านบาท) ซึ่งเท่ากับร้อยละ 99.93 ของกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นบีอีซี เวิลด์ ที่แสดงในงบการเงินรวม; โดยเสนอให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรของกิจการที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลใน อัตราร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจำนวน 0.90 บาทต่อหุ้น (เก้าสิบสตางค์) และอัตราร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิจำนวน 0.10 บาทต่อหุ้น (สิบสตางค์) และเสนอให้จ่ายวันที่ 26 พฤษภาคม 2554 ______________________________________________________________________ กำหนดการประชุมผู้ถือหุ้น เรื่อง : กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่คณะกรรมการมีมติ : 10 มี.ค. 2554 วันประชุมผู้ถือหุ้น : 27 เม.ย. 2554 เวลาเริ่มประชุมผู้ถือหุ้น (h:mm) : 14 : 00 วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุม (Record : 24 มี.ค. 2554 date) วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น : 25 มี.ค. 2554 ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้น : 22 มี.ค. 2554 วาระการประชุมที่สำคัญ : - การจ่ายปันผล สถานที่ประชุมผู้ถือหุ้น : ห้องเรนโบว์ ชั้น 5 โรงแรม อิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค เลขที่ 199 ซอยสุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ หมายเหตุ : ด้วยบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) จะจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2554 ในวันพุธที่ 27 เมษายน 2554 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ห้องเรนโบว์ ชั้น 5 โรงแรม อิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค เลขที่ 199 ซอยสุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ 10110 เพื่อพิจารณาเรื่องต่างๆ ตามระเบียบวาระการประชุมดังต่อไปนี้ วาระที่ 1: พิจารณารับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2553 วัตถุประสงค์และเหตุผล: บริษัทฯได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2553 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2553 บริษัทฯได้จัดทำรายงานการประชุมฯ และนำส่งรายงานการประชุมฯนี้ให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และกระทรวงพาณิชย์แล้ว ภายใน14วันนับจากประชุมแล้วเสร็จ นอกจากนี้ได้เผยแพร่รายงานการประชุมฯ นี้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ www.becworld.com เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาความครบถ้วนถูกต้องในสาระสำคัญด้วย ถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับการทักท้วงว่ารายงานการประชุมฯดังกล่าว ไม่ครบถ้วนถูกต้อง ในสาระสำคัญในเรื่องใด รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2553 ได้แสดงไว้เป็นเอกสารประกอบการประชุมวาระที่ 1 ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรรับรองรายงานการประชุมฯ ดังกล่าว วาระที่ 2: คณะกรรมการเสนอรายงานของคณะกรรมการเพื่อทราบ วัตถุประสงค์และเหตุผล: ข้อบังคับของบริษัทฯกำหนดให้ที่ประชุมสามัญประจำปี พิจารณารับทราบรายงานประจำปีของคณะกรรมการที่เสนอต่อที่ประชุมเกี่ยวกับการดำเนินกิจการในรอบปีที่ผ่านมา รายงานคณะกรรมการเกี่ยวกับกิจการของบริษัทฯในรอบปี 2553 ได้แสดงไว้ในรายงานประจำปี 2553 และเพื่อความสะดวกของผู้เข้าร่วมประชุมฯ จึงได้คัดรายงานดังกล่าวแสดงไว้เป็นเอกสารประกอบการประชุมวาระที่ 2 ความเห็นคณะกรรมการ: เห็นสมควรเสนอรายงานของคณะกรรมการ เกี่ยวกับกิจการของบริษัทฯ ในรอบปี 2553 เพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2554 รับทราบ วาระที่ 3: พิจารณาอนุมัติงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 วัตถุประสงค์และเหตุผล: ข้อบังคับของบริษัทฯกำหนดให้คณะกรรมการต้องดำเนินการจัดทำงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน ณ วันสิ้นสุดของรอบปีบัญชีของบริษัทฯ ให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบแสดงความเห็นให้เสร็จสิ้น ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปี เพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน ณ วันสิ้นสุดของรอบปีบัญชี 2553 รวมทั้งคำอธิบาย และการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ได้แสดงไว้ในรายงานประจำปี 2553 ของบริษัทฯ ซึ่งได้จัดส่งให้แก่ผู้ถือหุ้น พร้อมกับหนังสือนัดประชุมในครั้งนี้ ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ซึ่งผู้สอบบัญชีได้ทำการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยไม่มีเงื่อนไขไว้แล้ว วาระที่ 4: พิจารณาจัดสรรเงินกำไร และอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2553 งวดหลัง วัตถุประสงค์และเหตุผล: ปี 2553 กลุ่มบีอีซี เวิลด์ ทำกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบีอีซี เวิลด์ได้ 3,302,285,770บาท (สามพันสามร้อยสองล้านสองแสนแปดหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยเจ็ดสิบบาท) โดยแสดงในงบการเงินเฉพาะบริษัทฯ เป็นจำนวนเงิน 3,321,513,822บาท (สามพันสามร้อยยี่สิบเอ็ดล้านห้าแสนหนึ่งหมื่นสามพันแปดร้อยยี่สิบสองบาท) ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลที่ได้จ่ายไปในระหว่างปี โดยเป็นเงินปันผลสำหรับปี 2552 งวดหลังที่จ่ายตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553 ในอัตรา0.80 บาทต่อหุ้น (แปดสิบสตางค์ต่อหุ้น) และเงินปันผลระหว่างกาลของปี 2553 อีก 0.65บาทต่อหุ้น (หกสิบห้าสิบสตางค์ต่อหุ้น) และเมื่อรวมกับยอดกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรยกมาจากปีก่อน 1,932,249,873 บาท (หนึ่งพันเก้าร้อยสามสิบสองล้านสองแสนสี่หมื่นเก้าพันแปดร้อยเจ็ดสิบสามบาท) รวมเป็นกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 เท่ากับ 2,353,763,695 บาท (สองพันสามร้อยห้าสิบสามล้านเจ็ดแสนหกหมื่นสามพันหกร้อยเก้าสิบห้าบาท) ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามที่แสดงในงบการเงินรวม และมีประเพณีที่จะจ่ายปีละสองครั้ง คือ เป็นเงินปันผลระหว่างกาล เมื่อแจ้งผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี และเป็นเงินปันผลประจำปีที่ขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญประจำปี ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้ว เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 พิจารณาจัดสรรเงินกำไรปี 2553 เป็นเงินปันผลงวดหลังอีก 1.00 บาทต่อหุ้น (หนึ่งบาทต่อหุ้น) เป็นจำนวนเงินรวม 2,000,000,000 บาท (สองพันล้านบาท) ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาล ที่ได้จ่ายไปเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2553 ในอัตรา 0.65 บาทต่อหุ้น (หกสิบห้าสตางค์ต่อหุ้น) รวมทั้งปีจ่ายในอัตรา 1.65 บาทต่อหุ้น (หนึ่งบาทหกสิบห้าสตางค์ต่อหุ้น) หรือคิดเป็นจำนวนเงินรวม 3,300,000,000บาท(สามพันสามร้อยล้านบาท) ซึ่งเท่ากับร้อยละ 99.93 ของกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบีอีซี เวิลด์ที่แสดงในงบการเงินรวม และหลังจากหักเงินปันผลงวดหลังนี้ คงเหลือเป็นเงินกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรในงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ อีกจำนวน 353,763,695 บาท (สามร้อยห้าสิบสามล้านเจ็ดแสนหกหมื่นสามพันหกร้อยเก้าสิบห้าบาท) และเหลืออีก 2,242,487,110บาท (สองพันสองร้อยสี่สิบสองล้านสี่แสนแปดหมื่นเจ็ดพันหนึ่งร้อยสิบบาท) ในงบการเงินรวม วาระที่ 5: พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ต้องออกตามวาระ วัตถุประสงค์และเหตุผล: ข้อบังคับของบริษัทฯ ให้บริษัทฯมีคณะกรรมการของบริษัทฯไม่น้อยกว่า 5 คนและกำหนดให้ 1 ใน 3 ของกรรมการออกจากตำแหน่งในการประชุมสามัญประจำปีทุกครั้ง โดยให้กรรมการที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุด เป็นผู้ออกจากตำแหน่งก่อน และกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับเลือกเข้ารับตำแหน่งอีกก็ได้ ปัจจุบันบริษัทฯมีกรรมการ 14 คน ในปีนี้ มีกรรมการที่จะต้องออกตามวาระรวม 4 คน ได้แก่ นายวิชัย มาลีนนท์ นายประสาร มาลีนนท์ นายประวิทย์ มาลีนนท์ และ นางสาวรัตนา มาลีนนท์ และเพื่อให้มีกรรมการออกจากตำแหน่งครบตามสัดส่วน 1 ใน 3 ของคณะกรรมการตามข้อบังคับของบริษัทฯ นางสาวนิภา มาลีนนท์ ได้อาสาออกจากตำแหน่งอีกคนหนึ่ง คณะกรรมการสรรหาได้มีความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทฯว่า กรรมการที่จะออกในปีนี้ เป็นผู้มีคุณวุฒิและมีคุณสมบัติเหมาะสม กล่าวคือ เป็นผู้มีความสามารถ มีความรอบรู้ มีความชำนาญในธุรกิจ จึงเห็นควรเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นให้พิจาณาเลือกตั้งกรรมการทั้ง 5 คนที่ออกในปีนี้กลับเข้าดำรงตำแหน่งต่อไปอีกวาระหนึ่ง โดยประวัติกรรมการและผลงานในปีที่ผ่านมา ได้แสดงไว้แล้วในเอกสารประกอบการประชุมวาระที่ 5 ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้ว เห็นว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรตั้ง นายวิชัย มาลีนนท์ นายประสาร มาลีนนท์ นายประวิทย์ มาลีนนท์ นางสาวรัตนา มาลีนนท์ และนางสาวนิภา มาลีนนท์ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งในปีนี้ กลับเข้าเป็นกรรมการต่อไปอีกวาระหนึ่ง วาระที่ 6: พิจารณากำหนดค่าตอบแทนกรรมการสำหรับปี 2554 วัตถุประสงค์และเหตุผล: ข้อบังคับของบริษัทฯ กำหนดให้กรรมการมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งค่าตอบแทน ได้แก่ เงินเดือน เงินบำเหน็จ เบี้ยประชุม เบี้ยเลี้ยง โบนัส สวัสดิการ หรือผลประโยชน์ตอบแทนในลักษณะอื่นทำนองเดียวกัน โดยที่บริษัทฯได้จ่ายค่าตอบแทนกรรมการในรูปเบี้ยประชุม และเงินบำเหน็จ เท่านั้น ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้ว เห็นว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ และกรรมการในคณะอนุกรรมการทุกชุด สำหรับปี 2554 ในอัตราเดิม ดังนี้ ก. เบี้ยประชุม: กำหนดเงินเบี้ยประชุมสำหรับการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ แต่ละครั้ง ในอัตราเดิมเท่ากับปีก่อน ดังนี้ - ประธานกรรมการ 15,000บาท(หนึ่งหมื่นห้าพันบาท) - กรรมการท่านอื่นท่านละ 10,000บาท(หนึ่งหมื่นบาท) - เบี้ยประชุมสำหรับกรรมการทุกท่านในคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ท่านละ 10,000บาท(หนึ่งหมื่นบาท) โดยให้วงเงินสำหรับเบี้ยประชุมนี้ไม่เกิน 1,500,000บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาท) เท่ากับปีก่อน ข. เงินบำเหน็จกรรมการ: เป็นจำนวนเงินรวม 18,000,000บาท (สิบแปดล้านบาท) เท่ากับปีก่อน โดยให้คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรกันเองตามความเหมาะสม วาระที่ 7: พิจารณาแต่งตั้งและกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีสำหรับปี 2554 วัตถุประสงค์และเหตุผล: เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ซึ่งกำหนดให้ที่ประชุมสามัญประจำปีแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดจำนวนเงินค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีของบริษัททุ กปี ในการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีนั้นจะแต่งตั้งผู้สอบบัญชีคนเดิมอีกก็ได้ คณะกรรมการบริษัทได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบ พิจารณาคัดเลือก เสนอแต่งตั้งและเสนอค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีของกลุ่มบริษัท ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นร่วมกันที่จะเสนอชื่อ ดร.วิรัช อภิเมธีธำรง ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 1378 และ/หรือ นายชัยกรณ์ อุ่นปิติพงษา ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3196 และ/หรือ นายอภิรักษ์ อติอนุวรรตน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 5202 แห่งสำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ให้เป็นผู้สอบบัญชีของกลุ่มบริษัทสำหรับรอบปีบัญชี 2554 อีกปีหนึ่ง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้สอบบัญชีเป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม มีความรู้ความสามารถ มีความชำนาญในวิชาชีพ มีผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับและน่าพอใจ ผู้สอบบัญชีมีความเป็นอิสระ และไม่มีความสัมพันธ์หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทฯและบริษัทย่อย ทั้งนี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553 ได้มีมติอนุมัติค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีของกลุ่มบริษัทสำหรับปี 2553 เป็นจำนวนเงินรวม 5,795,000บาท (ห้าล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นห้าพันบาท) แต่ค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีปี 2553 ที่จ่ายจริง เป็นยอดเงินรวม 5,851,000บาท (ห้าล้านแปดแสนห้าหมื่นหนึ่งพันบาท) สูงกว่าที่ได้รับอนุมัติไว้อยู่ 56,000บาท (ห้าหมื่นหกพันบาท) เนื่องจาก ผู้สอบบัญชีได้เรียกเก็บค่าตอบแทนตามปริมาณงาน ที่เปลี่ยนแปลงตามการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท ดังนี้ 1.) มีการจดทะเบียนยกเลิก และมีการชำระบัญชีกิจการร่วมค้า บีอีซี -เทโร ซีเนริโอ เมื่อมีนาคม 2553 ผู้สอบบัญชีจึงเรียกเก็บเพียงค่าตรวจสอบบัญชีเพื่อจดทะเบียนยกเลิกกิจการร่วมค้าฯ เป็นจำนวนเงิน 16,000บาท (หนึ่งหมื่นหกพันบาท) ต่ำกว่ายอดรวม 40,000บาท (สี่หมื่นบาท) ที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญฯ อยู่ 24,000บาท (สองหมื่นสี่พันบาท) 2.) ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท บีอีซี-เทโร ศาสน จำกัด [บีอีซี-เทโร ศาสน] ภายหลังจากการเสนออัตราค่าสอบบัญชีปี 2553 ต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2553 แล้ว โดยในปี 2553 นี้ ผู้สอบบัญชีได้มีการเรียกเก็บค่าสอบทานบัญชีรวม 2 ไตรมาสๆละ 20,000บาท (สองหมื่นบาท) และจะเรียกเก็บค่าตรวจสอบบัญชีประจำปีอีก 40,000บาท (สี่หมื่นบาท) รวมค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีของ บีอีซี-เทโร ศาสน สำหรับปี 2553 เป็นยอดเงินรวม 80,000บาท (แปดหมื่นบาท) ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ บีอีซี-เทโร ศาสน ได้อนุมัติค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีส่วนนี้แล้ว สำหรับค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีปี 2554 นั้น คณะกรรมการตรวจสอบ พิจารณาแล้วเห็นว่า ค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีที่ผู้สอบบัญชีเสนอมาในครั้งนี้ มีความเหมาะสม สอดคล้องกับปริมาณงานของกลุ่มบริษัทบีอีซี เวิลด์ ซึ่งมีทั้งที่ปรับขยายขนาดธุรกิจ และปรับลดธุรกิจ รวมถึง มีการจดทะเบียนตั้งบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นด้วย จึงเห็นควรเสนอค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีปี 2554 ต่อที่ประชุม โดยมีรายละเอียดดังนี้ ผู้สอบบัญชีได้เสนอค่าสอบบัญชีของทุกบริษัทในกลุ่มบีอีซี เวิลด์ เป็นยอดเงินรวม 6,270,000บาท (หกล้านสองแสนเจ็ดหมื่นบาท) สูงขึ้นกว่าค่าสอบบัญชีที่เกิดขึ้นจริงในปี 2553 รวม 419,000 บาท (สี่แสนหนึ่งหมื่นเก้าพันบาท) หรือคิดเป็นร้อยละ 7.16 โดยผู้สอบบัญชีได้ขอปรับค่าตอบแทน ตามปริมาณงานที่มีทั้งที่เพิ่มขึ้นและลดลง เนื่องจาก ในระหว่างปี 2553 มีการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทที่มีผลต่อค่าตอบแทนผู้สอบบัญชี ดังนี้ (1) ได้ชำระบัญชีกิจการร่วมค้า บีอีซี-เทโร ซีเนริโอ เสร็จตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 ทำให้ไม่มีค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีจำนวน 16,000 บาท (หนึ่งหมื่นหกพันบาท) ที่ได้จ่ายในปี 2553 (2) มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท บีอีซี-เทโร ศาสน จำกัด เมื่อปลายเดือนเมษายน 2553 ซึ่งผู้สอบบัญชีก็ได้เสนอค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีสำหรับปี 2554 ในอัตราเดียวกับอัตราที่เรียกเก็บในปี 2553 จึงมีค่าสอบทานงบการเงินรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 1 ไตรมาส เป็นเงิน 20,000บาท (สองหมื่นบาท) (3) มี บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด (เดิมชื่อบริษัท เวอร์จิ้น บีอีซี-เทโร เรดิโอ (ประเทศไทย) จำกัด) มาเพิ่มเป็นบริษัทย่อยรายใหม่ ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2553 ซึ่งผู้สอบบัญชีได้เสนอค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีปี 2554 เป็นจำนวนเงิน 415,000บาท (สี่แสนหนึ่งหมื่นห้าพันบาท) ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้น สมควรแต่งตั้ง ดร.วิรัช อภิเมธีธำรง ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 1378 และ/หรือ นายชัยกรณ์ อุ่นปิติพงษา ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3196 และ/หรือ นายอภิรักษ์ อติอนุวรรตน์ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 5202 เป็นผู้สอบบัญชีสำหรับรอบปีบัญชี 2554 และกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชี สำหรับปี 2554 โดยเป็นค่าสอบทานและตรวจสอบบัญชีของบริษัทฯและบริษัทย่อยในกลุ่มบีอีซี เวิลด์ เป็นยอดรวม 6,270,000บาท (หกล้านสองแสนเจ็ดหมื่นบาท) สูงขึ้นกว่าค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีที่เกิดขึ้นจริงในปี 2553 อยู่ 419,000บาท (สี่แสนหนึ่งหมื่นเก้าพันบาท) หรือคิดเป็นร้อยละ 7.16 โดยเป็นค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีในส่วนของบริษัทจำนวน 1,290,000บาท (หนึ่งล้านสองแสนเก้าหมื่นบาท) เท่ากับปีก่อน โดยที่ค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีของกลุ่มบริษัทปรับเพิ่มขึ้นตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น จากการปรับโครงสร้างและขยายธุรกิจของบริษัทในกลุ่มบีอีซี เวิลด์ เป็นหลัก อนึ่ง บริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553 และกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 24 มีนาคม 2554 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 25 มีนาคม 2554 จึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เข้าร่วมประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ ดังกล่าวข้างต้นโดยพร้อมเพรียงกัน สำหรับท่านผู้ถือหุ้นที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุม บริษัทฯได้เตรียมหนังสือมอบฉันทะ - ตามที่ได้แนบมาพร้อมหนังสือเชิญประชุมฯในครั้งนี้, เพื่อโปรดพิจารณามอบฉันทะให้ผู้แทนเข้าร่วมประชุม และใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนแทน ซึ่งอาจจะมอบฉันทะให้แก่กรรมการอิสระของบริษัทฯ โดยกรอกแบบและลงนามในหนังสือมอบฉันทะส่งกลับมายังบริษัทฯ พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการมอบฉันทะให้ครบถ้วน ภายในวันที่ 25 เมษายน 2554 ด้วย จักขอบคุณยิ่ง ขอแสดงความนับถือ (นายวิชัย มาลีนนท์) ประธานกรรมการ ______________________________________________________________________