รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ

8 สิงหาคม 2549 เรื่อง ขอนำส่งงบการเงิน ไตรมาสสอง ปี 2549 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย งบการเงิน ไตรมาสสอง-ปี 2549 ของบริษัท และงบการเงินรวม ของบริษัทและบริษัทย่อย พร้อมคำอธิบายงบการเงินรวม บริษัทบีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ขอนำส่งงบการเงินของบริษัท และ งบการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสสอง ? ปี2549 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี และคณะกรรมการตรวจสอบ ได้สอบทานแล้ว ดังที่ได้แนบมาด้วยนี้ กลุ่มบีอีซี เวิลด์ สามารถสร้างกำไรในไตรมาสสอง-ปี2549 ได้ 465ล้านบาท สูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อนกว่า29ล้าน(+7%) และสูงกว่าไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน236ล้าน(+103%) เนื่องจากรายได้จากการขายโฆษณาที่ปรับฟื้นเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ทำให้บีอีซี เวิลด์ มีอัตราการใช้นาทีโฆษณา เพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเริ่มอยู่ตัว ไม่ปรับเพิ่มขึ้นมาก จึงทำให้กลุ่มบีอีซี เวิลด์อัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้น ดังที่ได้อธิบาย ในคำอธิบายงบการเงินรวมที่ได้แนบมาด้วยพร้อมนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายฉัตรชัย เทียมทอง) ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน คำอธิบายงบการเงินรวม ไตรมาสสอง-ปี2549 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผลการดำเนินงาน กลุ่มบีอีซี เวิลด์ สามารถสร้างกำไรในไตรมาสสอง-ปี2549 ได้465ล้านบาท สูงขึ้น กว่าไตรมาสก่อนกว่า 29 ล้าน(+7%) และสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน236ล้าน (+103%) เนื่องจากรายได้จากการขายโฆษณาที่ปรับฟื้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส สุดท้ายของปีก่อน ทำให้บีอีซี เวิลด์ มีอัตราการใช้นาทีโฆษณาเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเริ่มอยู่ตัวไม่ปรับเพิ่มขึ้นมาก จึงทำให้ กลุ่มบีอีซี เวิลด์อัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้น รายได้ รายได้จากการขายเวลาโฆษณาในไตรมาสสอง-ปีนี้ทำได้1,595ล้านบาท สูงขึ้นกว่า ไตรมาสก่อน 97ล้าน (+6%) และสูงขึ้นกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 325ล้าน (+26%) จากอัตราการใช้นาทีโฆษณาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน และมีรายได้จากการให้ใช้สิทธิเพิ่มขึ้น จากการขายสิทธิในบทภาพยนตร์ และการนำ รายการที่ออกอากาศแล้วมานำเสนอในรูปแบบวีซีดี ในส่วนของรายได้จากการจัด คอนเสิร์ตและโชว์ได้ลดต่ำลง เนื่องจากไม่ได้รวมรายได้ในส่วนของการจัดการแสดง ในต่างประเทศ ของธีมสตาร์ ซึ่งเปลี่ยนสภาพจากบริษัทย่อยไปเป็นบริษัทร่วมตั้งแต่ ช่วงท้ายของปีก่อน ต้นทุนขายและค่าใช้จ่าย ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายโดยรวม เริ่มอยู่ตัวไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากอย่างปีก่อน หลังจากที่การ ขยายงานของกลุ่มเสร็จสิ้นกลับสู่ภาวะปกติ ต้นทุนการจัดคอนเสิร์ตและโชว์ได้ลดต่ำลงมา มาก เนื่องจากไม่ได้รวมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในส่วนของการจัดการแสดงในต่างประเทศ ของธีมสตาร์ ซึ่งเปลี่ยนสภาพจากบริษัทย่อยไปเป็นบริษัทร่วมตั้งแต่ช่วงท้ายของปีก่อน แม้ เมื่อเปรียบเทียบในฐานเดียวกันก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามสภาวะเงินเฟ้อเมื่อเปรียบเทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ฐานะการเงิน สินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาสเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปลายปีก่อน ตามกำไร ส่วนใหญ่ อยู่ในรูปของเงินสดเงินฝากธนาคารหรือรายการเทียบเท่าเงินสดเช่นเคย แต่ก็ลดลง จากไตรมาสก่อนเล็กน้อยจากการจ่ายเงินปันผลและภาษีเงินได้ประจำปี ซึ่งมีผลทำให้ หนี้สินลดลงตามไปด้วยเช่นกัน ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับเพิ่มขึ้นจากยอด ณ สิ้นไตรมาสก่อนและ ปลายปีก่อน ตามกำไรที่เพิ่มขึ้น เป็นยอดเท่ากับ 6,147ล้านบาท