28 กุมภาพันธ์ 2548
นำส่งงบการเงินปี 2547 พร้อมคำอธิบายงบการเงิน
28 กุมภาพันธ์ 2548
เรื่อง ขอนำส่งงบการเงิน ปี 2547
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทบีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ขอนำส่งงบการเงินของบริษัท
และงบการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับ ปี2547 สิ้นสุด ณ วันที่ 31
ธันวาคม 2547 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี และคณะกรรมการตรวจสอบได้
สอบทานแล้ว ดังที่ได้แนบมาด้วยนี้
ก่อนเริ่มปี2547 กลุ่มบีอีซี เวิลด์ ได้คาดหวังไว้ว่าเม็ดเงินโฆษณา
ผ่านสื่อโทรทัศน์จะเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตามความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจโดย
รวมที่ดีขึ้นมาเป็นลำดับ กลุ่มจึงได้ประกาศปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาตั้งแต่ช่วงปลายปี
2546 และได้ปรับปรุงขยายเพิ่มพื้นที่ทำธุรกิจโดยการขยายพื้นที่ช่วงเวลาไพร์มไทม
และได้พัฒนาช่วงเวลานอกไพร์มไทม ซึ่งมีผลทำให้กลุ่มมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการ
ดำเนินงานเพิ่มขึ้น และกระตุ้นให้มีการแข่งขันในหมู่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์เพิ่ม
มากขึ้น แม้ว่ากลุ่มจะประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากในการพัฒนารายได้ในช่วงเวลา
นอกไพร์มไทม แต่โฆษณาในเวลาช่วงไพร์มไทมยังทำได้ไม่เต็มที่ จากการที่เม็ดเงิน
โฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์มีการเติบโตในอัตราที่ถดถอยต่ำกว่าที่คาด จึงทำให้อัตรากำไร
ที่ทำได้ลดต่ำลง ทำให้กลุ่มมีกำไรเพียง 1,602ล้านบาท ดังที่ได้อธิบายในคำอธิบาย
งบการเงินรวมที่ได้แนบมาด้วย พร้อมนี้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายฉัตรชัย เทียมทอง)
ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน
คำอธิบายงบการเงินรวม ปี 2547 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
ผลการดำเนินงาน
กลุ่มบีอีซี เวิลด์ สามารถสร้างกำไรในปี2547 ได้1,602ล้านบาท ต่ำกว่าที่เคยทำ
ได้ในปีก่อน386ล้านบาท เท่ากับต่ำลงร้อยละ19 จากการที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการ
ดำเนินงานที่โตสูงขึ้น จากการลงทุนขยายเวลาช่วงไพร์มไทม และการพัฒนาช่วง
เวลานอกไพร์มไทมให้น่าสนใจมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาที่
คาดว่าจะโตขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันในตลาดที่ดูว่ากระเตื้องดีขึ้น ใน
ขณะที่รายได้จากการขายโฆษณาไม่ได้โตขึ้นตามดังที่คาด จึงทำให้อัตรากำไรที่ทำได้
ลดต่ำลง
รายได้
ในปี2547 กลุ่มบีอีซี เวิลด์ มีรายได้รวมเท่ากับ6,473ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีก่อน
ร้อยละ4 มาจากรายได้จากการจัดการแสดงที่โตขึ้นกว่าปีก่อนร้อยละ37 ตามภาวะ
กำลังซื้อและความพร้อมที่จะออกมารื่นเริงที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่ในส่วนของรายได้จาก
การขายเวลาโฆษณานั้น แม้ว่ากลุ่มจะประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากในการพัฒนาราย
ได้ในช่วงเวลานอกไพร์มไทมแต่โฆษณาในเวลาช่วงไพร์มไทมยังทำได้ไม่เต็มที่
จากการที่เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์มีการเติบโตในอัตราที่ถดถอยต่ำกว่าที่คาด
ในขณะที่มีการแข่งขันแย่งเม็ดเงินโฆษณาในหมู่ผู้ประกอบการโทรทัศน์รุนแรงมากขึ้น
ทำให้รายได้จากการขายเวลาโฆษณาโดยรวมของกลุ่มดีขึ้นกว่าที่ทำได้ในปีก่อน
เพียงเล็กน้อย ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมปรับฟื้นดีขึ้นมากในปีนี้ แต่รายได้อื่นซึ่ง
ประกอบด้วยผลตอบแทนของเงินสดที่บริษัทถือครองเป็นหลักนั้น กลับลดลงตามภาวะ
อัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องจากปีก่อน
ต้นทุนขายและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนขาย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ19 ส่วนใหญ่มาจากต้นทุนของกิจกรรมของ
บีอีซี-เทโรฯที่โตขึ้นตามรายได้ ในขณะที่ต้นทุนรายการโทรทัศน์ก็โตขึ้น จากการ
ลงทุนขยายเวลาช่วงไพร์มไทมเพิ่มละครแนวสร้างสรรค์สำหรับทั้งครอบครัว
ในช่วงครอบครัวตัวละคร และการพัฒนาช่วงเวลานอกไพร์มไทมให้เป็นที่น่าสนใจ
มากขึ้น รวมถึงการแนะนำช่วงละครแกะกล่องในช่วงบ่ายวันธรรมดาที่กลุ่มดำเนินการ
เพื่อรองรับการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาที่คาดว่าจะโตขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและ
การแข่งขันในตลาดที่กระเตื้องดีขึ้น ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารก็
เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ15 ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายการขายและการดำเนิน
งานที่โตตามกิจกรรมที่มีบ่อยและหลากหลายมากขึ้น และอีกส่วนหนึ่งมาจากการย้าย
สำนักงานมาอยู่ ณ ที่ใหม่ที่มีพื้นที่เช่ามากขึ้น
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปลายปีก่อน จากการลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับการ
ขยายตัวของธุรกิจดังที่กล่าวข้างต้น กลุ่ม บีอีซี เวิลด์ มีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31
ธันวาคม 2547 เท่ากับ7,565ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเงินสดเงินฝากธนาคาร
หรือเงินลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้เช่นเคย โดยที่เงินส่วนใหญ่ได้ย้ายจากเงิน
ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้มาอยู่ในรูปของเงินฝากเพื่อลดความเสี่ยงจากการ
ผันผวนของอัตราดอกเบี้ย ในส่วนของหนี้สิน กลุ่มฯมีหนี้สินรวมสูงขึ้นกว่าเมื่อปลายปี
ก่อน จากการที่มีเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้นตามการที่ได้ลงทุนด้านรายการเพิ่มขึ้น ส่วนของ
ผู้ถือหุ้น ณ 31 ธันวาคม 2547 เป็นยอดเท่ากับ 6,320ล้านบาท โตขึ้นมาจากปลายปี
ก่อนร้อยละ9
??
??
??
??