รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ

23 ธันวาคม 2545 เรื่อง แจ้งการทำความตกลงเบื้องต้นในการเช่าพื้นที่อาคาร มาลีนนท์ ทาวเวอร์ เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วย บริษัทและบริษัทย่อย ได้ทำความตกลงเบื้องต้นกับบริษัท มาลีนนท์ ทาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน เพื่อการเช่าพื้นที่สตูดิโอและสำนักงานบริเวณอาคาร 36 ชั้นและอาคาร 12 ชั้น ที่กำลังก่อสร้างในโครงการมาลีนนท์ ทาวเวอร์ จึงใคร่ขอรายงานรายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยมีรายละเอียดการทำความตกลงดังนี้ วันเดือนปีที่ทำความตกลง: 20 ธันวาคม 2545 คู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง: ผู้เช่า: บริษัทและบริษัทย่อย [กลุ่มบริษัท] ผู้ให้เช่า: บริษัท มาลีนนท์ ทาวเวอร์ จำกัด [มาลีนนท์ ทาวเวอร์] ลักษณะความสัมพันธ์: กลุ่มมาลีนนท์ เป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นร้อยละ100ในบริษัท มาลีนนท์ ทาวเวอร์ และเป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 56.56 ในบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโดยทั่วไปของรายการ: กลุ่มบริษัท ได้ทำความตกลงเบื้องต้นจะเช่าพื้นที่บริเวณอาคาร 36 ชั้น และอาคาร 12 ชั้น ในโครงการ มาลีนนท์ ทาวเวอร์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ริมถนนพระรามสี่ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โดยมีพื้นที่เช่าโดยประมาณ 14,000 ตารางเมตร-อ้างอิงจากพื้นที่ที่เช่าใช้ในอาคารเอ็มโพเรี่ยม ทาวเวอร์ ณ ปัจจุบัน ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทจะทำสัญญาเช่ากับมาลีนนท์ ทาวเวอร์ เมื่อจะเข้าใช้พื้นที่ ในอนาคต เมื่ออาคาร 12ชั้น พร้อมใช้ โดยราคาค่าเช่าและเงื่อนไข การเช่าจะอิงกับราคาตลาดและเงื่อนไขที่ใช้กันโดยทั่วไปในขณะนั้น ขนาดของรายการ: การทำความตกลงในครั้งนี้ เข้าข่ายรายการที่เกี่ยวโยงกัน แต่เนื่องจาก เป็นการทำความตกลงเบื้องต้น ยังมิได้มีการทำสัญญาเช่า จึงยังไม่ สามารถคำนวณขนาดของรายการได้ เหตุผลและความจำเป็นในการทำรายการ: เนื่องจาก อาคารเอ็มโพเรี่ยมทาวเวอร์ ซึ่งเป็นฐานการ ดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ได้ถูกเช่าพื้นที่จนเต็มแล้ว ซึ่งเป็น ปัญหาต่อการขยายงาน อีกทั้งสัญญาเช่าซึ่งกลุ่มบริษัทได้ทำไว้กับ บริษัท ซิตี้ เรียลตี้ จำกัด จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2547 กลุ่มบริษัทจึงมีความจำเป็นต้องหาพื้นที่เช่า และเตรียมพื้นที่ เพื่อ รองรับความจำเป็นในการใช้งานในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อเป็นศูนย์ดำเนินการของฝ่ายปฏิบัติงาน ซึ่งต้องการพื้นที่ใช้งาน ที่ต้องมีลักษณะเฉพาะ เช่น ส่วนของสตูดิโอซึ่งต้องมีลักษณะเป็น ห้องโถงสูง นอกจากนี้ ยังมีห้องคอนโทรลและห้องส่งออกอากาศ ซึ่งต้องวางแผนการใช้งานให้สอดคล้องกับการปรับใช้เทคโนโลยี ใหม่ ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา อนึ่ง เนื่องจาก อาคาร 12 ชั้น อยู่ในระหว่างการก่อสร้างใน ระยะเริ่มต้น จึงสามารถทำการปรับแก้แบบอาคาร และดัดแปลง ลักษณะพื้นที่เช่าให้ตรงกับความต้องการใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า และ ประหยัดเงินลงทุนมากกว่าการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานสำเร็จรูป แล้วจึงเอามาทำการดัดแปลงอาคาร ทั้งนี้ คาดว่าอาคาร 12 ชั้นดังที่กล่าวจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 15 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ และพร้อมให้ทำสัญญาเช่าได้ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายฉัตรชัย เทียมทอง) ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน