EN TH
14 May 2010

นำส่งงบการเงินไตรมาส 1/2553 พร้อมคำอธิบายงบการเงินรวม

13 พฤษภาคม 2553 เรื่อง ขอนำส่งงบการเงิน ไตรมาสแรกปี 2553 และคำอธิบายเหตุผลที่ผลการดำเนินงานเปลี่ยนแปลงเกินกว่าร้อยละ20 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย งบการเงินไตรมาสแรกปี2553 ของบริษัท และงบการเงินรวมของบริษัทและ บริษัทย่อย พร้อมคำอธิบายงบการเงินรวม บริษัทบีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ขอนำส่งงบการเงินของบริษัท และงบการ เงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับ ไตรมาสแรก ปี2553 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2553 ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชี และคณะกรรมการตรวจสอบได้สอบทานแล้ว ดังที่ได้แนบมา ด้วยนี้ กลุ่มบีอีซี เวิลด์ มีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นบีอีซี เวิลด์ในไตรมาสแรกปี2553 เท่ากับ 736ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ35 เท่ากับมีกำไรเพิ่มขึ้น192ล้าน บาท จากรายได้จากการขายเวลาโฆษณาที่เพิ่มขึ้น จากกำไรจากการจัดการแสดงที่สูงขึ้น แม้ รายได้อื่น-โดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยรับ-ที่ลดลงตามภาวะถดภอยของเศรษฐกิจมหภาค ในขณะที่ ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับขยายธุรกิจเพิ่มเวลานำเสนอรายการของกลุ่มบีอีซี เวิลด์เอง เพิ่มรายการ ใหม่ และขยายเวลาของรายการที่มีต้นทุนสูงเพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน กลุ่มบีอีซี เวิลด์ ก็ยังมีกำไรลดลง 4ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสก่อนอีกร้อยละ0.5 เนื่องมาจากการที่กลุ่มบีอีซี เวิลด์ มีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากการขยายธุรกิจ และจากการลดลงของรายได้ในช่วงไพรมไทม์ที่มีอัตรา กำไรสูงกว่า ซึ่งเป็นปกติในการเปรียบเทียบช่วงไตรมาสต้นปีกับช่วงไตรมาสท้ายของปี ดังที่ได้ อธิบายในคำอธิบายงบการเงินรวมที่ได้แนบมาด้วย พร้อมนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายฉัตรชัย เทียมทอง) ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน คำอธิบายงบการเงินรวม ไตรมาสแรกปี 2553 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ภาวะอุตสาหกรรม ในไตรมาสแรกของปีนี้ เม็ดเงินโษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ ได้ลดต่ำลงจาก ยอดที่เคยใช้ในไตรมาส ก่อนถึงร้อยละ6 ตามรายงานของเนลสัน มีเดีย รีเสริทช์(เนลสันฯ) ซึ่งก็เป็นปกติของการ เปรียบเทียบไตรมาสท้ายปี (ซึ่งเป็นช่วง"ไฮ-ซีซั่น") กับไตรมาสต้นปี (ซึ่งเป็นช่วง"โล-ซีซั่น") แต่เนลสันฯก็ยังได้รายงานด้วยว่า นั่นเป็นยอดที่สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ13 จาก แรงส่งที่อุตสาหกรรมมีการเติบโตในอัตราสูงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดตั้งแต่ครึ่งหลังของปีก่อน โดยเนลสันฯก็ได้รายงานด้วยว่า อัตราเติบโตจากฐานปีก่อนของอุตสาหกรรมนั้นสูงขึ้น ในอัตรา ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดไตรมาส(มกราคม+10.6%, กุมภาพันธ์+12.5% และมีนาคม+15.8%) มีผู้โฆษณาหลายราย ที่เพิ่มการใช้เงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ในอัตราสูง และ มีผู้โฆษณารายใหม่ เข้ามาสู่อุตสาหกรรมมากหลายราย โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นจุดเริ่มของช่วง"ไฮ-ซีซั่น" ตอกย้ำให้เห็นชัดเจน ถึงแนวโน้มที่ปรับดีขึ้น ของอุตสาหกรรมโษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ โครงสร้างของกลุ่มบีอีซี เวิลด์ ในช่วงไตรมาสแรกของปี2553 กลุ่มบีอีซี เวิลด์ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกลุ่ม อย่างเป็นสาระสำคัญ นอกจาก การที่ได้แปลงสภาพ"กิจการร่วมค้าบีอีซี-เทโร ซีเนริโอ" เป็นบริษัทร่วมทุน "บริษัท บีอีซี-เทโร ซีเนริโอ จำกัด" ซึ่ง "บีอีซี-เทโรฯ"บริษัทย่อยของ "บีอีซี เวิลด์" ถือหุ้นและมีสิทธิออกเสียงอยู่ร้อยละ50 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด โดยดำเนินงาน จัดการแสดงเช่นเดิม ผลการดำเนินงาน เนื่องจากนโยบายบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกบัญชี เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม มีผลทำ ให้ผลการดำเนินงานที่แสดงในงบฯเฉพาะของบริษัท แสดงผลที่ต่างไปจากผลการดำเนินงาน ของกลุ่ม ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดความสับสน ใคร่ขออธิบายผลการดำเนินงาน ตามที่แสดงใน งบการเงินรวม กลุ่มบีอีซี เวิลด์ มีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นบีอีซี เวิลด์ในไตรมาสแรกปี2553 เท่ากับ 736 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ35 เท่ากับมีกำไรเพิ่มขึ้น192ล้านบาท จาก รายได้จากการขายเวลาโฆษณาที่เพิ่มขึ้น จากกำไรจากการจัดการแสดงที่สูงขึ้น แม้รายได้อื่น- โดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยรับ-ลดลงตามภาวะถดภอยของเศรษฐกิจมหภาค ในขณะที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น จากการปรับขยายธุรกิจเพิ่มเวลานำเสนอรายการของกลุ่มบีอีซี เวิลด์เอง เพิ่มรายการใหม่ และ ขยายเวลาของรายการที่มีต้นทุนสูงเพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วน ค่าใช้จ่ายในการบริหารไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน กลุ่มบีอีซี เวิลด์ ก็ยังมีกำไรลดลง 4ล้านบาท ต่ำกว่า ไตรมาสก่อนอีกร้อยละ0.5 เนื่องมาจากการที่กลุ่มบีอีซี เวิลด์ มีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากการขยายธุรกิจ และ จากการลดลงของรายได้ในช่วงไพรมไทม์ที่มี อัตรากำไรสูงกว่า ซึ่งเป็นปกติในการเปรียบเทียบช่วงไตรมาสต้นปีกับช่วงไตรมาสท้ายของปี รายได้จากการขาย จากการปรับขยายธุรกิจ เพิ่มเวลานำเสนอรายการของกลุ่มบีอีซี เวิลด์เอง มีผลทำให้รายได้จาก การขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม บีอีซี เวิลด์ ในไตรมาสแรกปีนี้ ทำได้สูงขึ้นกว่าก่อนมาก สูงกว่า ไตรมาสก่อนร้อยละ14 แม้อุตสาหกรรมจะยุบตัวลงตามปกติของการเปรียบเทียบ ไตรมาสต้นปี (ซึ่งเป็นช่วง"โล-ซีซั่น") กับ ไตรมาสท้ายปี (ซึ่งเป็นช่วง"ไฮ-ซีซั่น") และสูงกว่าไตรมาส เดียวกันของปีก่อนร้อยละ42 ตามแรงส่งของอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนรายได้ จากการจัดคอนเสิร์ตและการแสดงนั้นลดลง ทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน จากจำนวนการแสดงที่ลดลง ตามภาวะสถานะการณ์ และการที่กลุ่มบีอีซี เวิลด์ เน้นคัดสรรเลือกรายการที่เอามานำเสนอเข้มมากขึ้น ซึ่งก็ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ส่วนรายได้จากบริการอื่น แม้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ก็ยังลดลงจากไตรมาสก่อนตามภาวะฤดูกาล ที่กิจกรรมในช่วงต้นปีนั้นน้อยลงกว่าที่เคยเป็นในช่วงท้ายปีเป็นหลัก ต้นทุนขายและค่าใช้จ่าย ต้นทุนเพิ่มขึ้น ทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน และ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันนี้ของ ปีก่อน จากการการปรับขยายธุรกิจ ปรับผังรายการเพิ่มรายการใหม่ ปรับขยายเพิ่มเวลาการนำ เสนอรายการของกลุ่มบีอีซี เวิลด์เองมากขึ้น และการขยายเวลาของรายการที่มีต้นทุนสูงเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เป็นการสร้างโอกาสในการทำรายได้และกำไรให้เพิ่มขึ้นด้วย ในส่วนค่าใช้จ่ายนั้น ได้ลดลง มากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน ทั้งนี้เนื่องมาจากกลุ่มบีอีซี เวิลด์ มีค่าใช้จ่ายตามฤดูกาลที่สูงใน ไตรมาสท้ายปีเป็นปกติ แต่ ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันนี้ของปีก่อน ฐานะการเงิน สินทรัพย์โดยรวมเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับยอด ณ สิ้นปี2552 โดยที่เงินสดและเงินลงทุน ชั่วคราวได้เพิ่มขึ้นตามผลกำไร และการขยายธุรกิจทำให้ลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่สินทรัพย์ ไม่หมุนเวียนซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วย เงินลงทุนในเครื่องมืออุปกรณ์ ค่าต้นทุนสิทธิการใช้ ทรัพย์สินและค่าต้นทุนรายการรอตัดจำหน่าย มียอดใกล้เคียงกับปีก่อน หนี้สินเพิ่มขึ้น จากภาษีเงิน ได้ที่เพิ่มขึ้นตามกำไร และการจัดสรรกำไรเป็นเงินปันผลงวดหลังของปีก่อนค้างจ่าย ส่วนของผู้ถือ หุ้นลดลง จากการจัดสรรกำไรเป็นเงินปันผลดังที่กล่าวแล้ว กลุ่ม บีอีซี เวิลด์ มีฐานะมั่งคงเช่นเคย