14 May 2008
นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2551 พร้อมคำอธิบายงบการเงินรวม
14 พฤษภาคม 2551
เรื่อง ขอนำส่งงบการเงิน ไตรมาสแรกปี 2551
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย งบการเงิน ไตรมาสแรกปี 2551 ของบริษัท และงบการเงินรวมของบริษัท
และบริษัทย่อย พร้อมคำอธิบายงบการเงินรวม
บริษัทบีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ขอนำส่งงบการเงินของบริษัท และงบ
การเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับ ไตรมาสแรก ปี2551 สิ้นสุด ณ วันที่ 31
มีนาคม 2551 ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชี และคณะกรรมการตรวจสอบได้สอบ
ทานแล้ว ดังที่ได้แนบมาด้วยนี้
กลุ่ม บีอีซี เวิลด์ มีกำไรสุทธิในไตรมาสแรกปี2551 เท่ากับ 670ล้านบาท
สูงกว่าไตรมาสก่อน29%เท่ากับมากขึ้น152ล้านบาท แม้รายได้จากการขายเวลาโฆษณาได้
เพิ่มขึ้นเพียง16ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนมีรายการไม่ปกติที่มา
ลดกำไรของ"บีอีซี"ลงหลายรายการ เช่น ค่าใช้จ่ายตามฤดูกาลในไตรมาสท้ายของปี ที่สูง
กว่าไตรมาสอื่นๆ, การตัดจ่ายต้นทุนทั้งหมดของภาพยนตร์เก่าที่ยังคงค้างอยู่, การรับรู้ผล
ขาดทุนจากการปรับโครงสร้างของ"ซีวีดี", ฯลฯ โดยที่ค่าใช้จ่ายบางส่วนยังไม่อาจรับรู้เป็น
ค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ อันมีผลทำให้ภาระภาษีเงินได้ของ"บีอีซี"ในไตรมาสท้ายของปีก่อน
นั้นสูงกว่าปกติด้วยเช่นกัน และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันนี้ของปีก่อนกำไรที่"บีอี
ซี"ทำได้ในปีนี้สูงกว่าปีก่อน129ล้านบาทเท่ากับดีขึ้น24% จากการที่ "บีอีซี"สามารถเพิ่ม
รายได้จากการขายเวลาโฆษณาได้สูงกว่าปีก่อนกว่า290ล้านบาท(+18%) จากการเพิ่ม
อัตราการใช้เวลาโฆษณาขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง และการปรับเพิ่มราคาในบางช่วงเวลา
ในขณะที่ต้นทุนการให้บริการ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารไม่ได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง
เท่า จึงทำให้กลุ่มบีอีซี เวิลด์ มียอดกำไรสุทธิ และอัตรากำไรสูงขึ้นมากดังที่ได้อธิบายใน
คำอธิบายงบการเงินรวมที่ได้แนบมาด้วยพร้อมนี้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายฉัตรชัย เทียมทอง)
ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน
คำอธิบายงบการเงินรวม สำหรับไตรมาส 1 ปี 2551
ภาวะอุตสาหกรรม
ในไตรมาสแรกของปี2551 เนื่องจาก"ทีไอทีวี"ได้หยุดดำเนินการและเปลี่ยนเป็น"ไทย-พีบี
เอส"ในช่วงกลางเดือนมกราคม และโดยที่เนลสัน มีเดีย รีเสริทช์ได้รายงานว่า "ทีไอทีวี"มี
ส่วนแบ่งในยอดเงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์สูงถึง17%ในไตรมาสแรกของปีก่อน และ16%
ในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ทำให้การเติบโตของการใช้เงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ใน
ไตรมาสแรกของปีนี้ ได้ลดต่ำลงมาจากยอดที่เคยใช้ในไตรมาสก่อนถึง17% และ ลดลง8%
จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
โครงสร้างของกลุ่มบีอีซี เวิลด์
ในช่วงไตรมาสแรกของปี2551 กลุ่มบีอีซี เวิลด์ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ
กลุ่ม อย่างเป็นสาระสำคัญ นอกจากการที่ได้ขายเงินลงทุนใน"ธีมสตาร์" บริษัทร่วมที่ได้
ขาดทุนมาโดยตลอด ออกไปทั้งหมด
ผลการดำเนินงาน
เนื่องจากนโยบายบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม มีผล
ทำให้ผลการดำเนินงานที่แสดงในงบฯเฉพาะของบริษัท แสดงผลที่ต่างไปจากผลการ
ดำเนินงานของกลุ่ม ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดความสับสน ใคร่ขออธิบายผลการดำเนินงาน
ตามที่แสดงในงบการเงินรวม
กลุ่ม บีอีซี เวิลด์ มีกำไรสุทธิในไตรมาสแรกปี2551 เท่ากับ 670ล้านบาท สูงกว่าไตรมาส
ก่อน29%เท่ากับมากขึ้น152ล้านบาท แม้รายได้จากการขายเวลาโฆษณาได้เพิ่มขึ้นเพียง16
ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน มีรายการไม่ปกติที่มาลดกำไรของ"บีอี
ซี"ลงหลายรายการ เช่น ค่าใช้จ่ายตามฤดูกาลในไตรมาสท้ายของปี ที่สูงกว่าไตรมาสอื่นๆ,
การตัดจ่ายต้นทุนทั้งหมดของภาพยนตร์เก่าที่ยังคงค้างอยู่, การรับรู้ผลขาดทุนจากการปรับ
โครงสร้างของ"ซีวีดี",ฯลฯ โดยที่ค่าใช้จ่ายบางส่วนยังไม่อาจรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้
อันมีผลทำให้ภาระภาษีเงินได้ของ"บีอีซี"ในไตรมาสท้ายของปีก่อนนั้นสูงกว่าปกติด้วย
เช่นกัน และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันนี้ของปีก่อน กำไรที่"บีอีซี"ทำได้ในปีนี้สูง
กว่าปีก่อน129ล้านบาท เท่ากับดีขึ้น24% จากการที่"บีอีซี"สามารถเพิ่มรายได้จากการขาย
เวลาโฆษณาได้สูงกว่าปีก่อนกว่า290ล้านบาท(+18%) จากอัตราการใช้เวลาโฆษณาที่เพิ่ม
ขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง และ การปรับเพิ่มราคาในบางช่วงเวลา ในขณะที่ต้นทุนการให้บริการ
และ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ไม่ได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเท่า จึงทำให้กลุ่ม บีอีซี
เวิลด์ มียอดกำไรสุทธิ และอัตรากำไร สูงขึ้นมากดังที่กล่าว
รายได้จากการขาย
รายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม บีอีซี เวิลด์ ในไตรมาสแรกปีนี้ ทำได้ดีกว่า
อุตสาหกรรม ทำได้สูงกว่าไตรมาสก่อน แม้โดยปกติมักจะต่ำลงในช่วงต้นปี และก็ยังเติบโต
ดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน18% จากการที่สามารถเพิ่มอัตราการใช้เวลาโฆษณาได้ดี
ขึ้นกว่าปีก่อนทั้งยังสามารถปรับราคาขึ้นได้ในบางช่วงเวลาอีกด้วย ส่วนรายได้จากการจัด
คอนเสิร์ตและแสดงโชว์ก็ดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพราะนอกจากการแสดงของ"ดิส
นี่ย์ออนไอ๊ซ"ในเดือนมีนาคมเช่นเดียวกับปีก่อน ก็ยังมีการสดงคอนเสริทของ "มารูน 5" และ
"แฮรี่ คอนนิค" ในปีนี้
ต้นทุนขายและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนและค่าใช้จ่ายลดลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน ทั้งนี้เนื่องจากในไตรมาส
สุดท้ายของปีก่อนมีรายการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่ปกติหลายรายการ เช่น ค่าใช้จ่ายตาม
ฤดูกาลที่สูงกว่าปกติในไตรมาสท้ายของปี และ การตัดจ่ายต้นทุนทั้งหมดของภาพยนตร์เก่า
ที่ยังคงค้างอยู่ แม้จะปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ก็เป็นการ
เพิ่มขึ้นตามปกติ ตามอัตราเงินเฟ้อ และ ตามยอดขายที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้ได้
รวมผลขาดทุนจากการขายเงินลงทุนทั้งหมดใน"ธีมสตาร์"ไว้ด้วย
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์โดยรวมเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับยอด ณ สิ้นปี2550 โดยที่เงินสดและเงินลงทุน
ชั่วคราวได้เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากตามการเพิ่มขึ้นของผลกำไร หนี้สินเพิ่มขึ้น จากการจัดสรร
กำไรเป็นเงินปันผลจ่าย และภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนของผู้ถือหุ้น ลดลงจากการจัดสรรเงิน
กำไรเป็นเงินปันผลดังที่กล่าวแล้ว กลุ่มฯมีฐานะมั่งคงเช่นเคย