EN TH
20 March 2008

แจ้งมติเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 และจ่ายปันผล

19 มีนาคม 2551 เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อเรียกประชุมสามัญฯ และประกาศจ่ายปันผล เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประชุมเมื่อบ่าย วันนี้ ได้มีมติที่สำคัญๆ ดังนี้ 1. มีมติเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวด หลัง สำหรับผลการดำเนินงานปี 2550 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตรา 0.55บาทต่อหุ้น โดยเสนอ ให้จ่ายวันที่ 23 พฤษภาคม 2551 2. มีมติให้เรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 ในวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2551 เวลา 14.30 นาฬิกา ณ ห้องเรนโบว์ ชั้น 5 โรงแรม อิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค เลขที่ 199 ซอย สุขุมวิท 22 กรุงเทพมหานคร โดยได้แนบหนังสือเชิญประชุมมาด้วยพร้อมนี้ 3. กำหนดให้ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ ถือหุ้น ประจำปี 2551 และกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันอังคารที่ 8 เมษายน 2551 ตั้งแต่เวลา 12.00 นาฬิกา ไปจนกว่าการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 จะแล้ว เสร็จ ทั้งนี้ บริษัทจะเผยแพร่หนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 พร้อมด้วย เอกสารแนบ ซึ่งเป็นฉบับเดียวกันกับที่จะส่งให้ผู้ถือหุ้นบนเว็บไซต์ของบริษัท www.becworld.com ภายในวันที่ 21 มีนาคม 2551 นี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายฉัตรชัย เทียมทอง) ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน - ร่าง - หนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 8 เมษายน 2551 เรื่อง ขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 เรียน ท่านผู้ถือหุ้น สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. สำเนารายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2550 2. รายงานประจำปี 2550 3. ข้อมูลบุคคลที่ถูกเสนอชื่อให้ตั้งเป็นกรรมการ 4. ข้อบังคับของบริษัทฯ เฉพาะที่เกี่ยวกับการประชุมผู้ถือหุ้น 5. หนังสือมอบฉันทะ 6. เอกสารและหลักฐานที่ผู้เข้าร่วมประชุมต้องแสดงก่อนเข้าร่วมประชุม 7. แผนที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ด้วยบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) จะจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 ในวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2551 เวลา 14.30 นาฬิกา ณ ห้องเรนโบว์ ชั้น 5 โรงแรม อิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค เลขที่ 199 ซอยสุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ 10110 เพื่อพิจารณา เรื่องต่างๆ ตามระเบียบวาระการประชุมดังต่อไปนี้ วาระที่ 1: พิจารณารับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2550 ข้อมูลประกอบการพิจารณา: การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2550 ได้ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2550 บริษัทได้จัดทำรายงานประชุมฯ และ นำส่งรายงานประชุมฯ นี้ ให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และกระทรวงพาณิชย์แล้ว ภายใน14วันนับจากประชุมแล้วเสร็จ และ บริษัทได้เผยแพร่รายงานประชุมนี้ ในเว็บไซต์ของบริษัทwww.becworld.com เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ที่ เกี่ยวข้องได้พิจารณาความครบถ้วนถูกต้องในสาระสำคัญด้วยถึงปัจจุบันยัง ไม่ได้รับการทักท้วงว่ารายงานการประชุมฯดังกล่าว ไม่ครบถ้วนถูกต้อง ใน สาระสำคัญในเรื่องใด รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี2550 ได้ แสดงไว้เป็นเอกสารประกอบการประชุมวาระที่ 1 ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้น สมควรรับรองรายงานการประชุมฯ ดังกล่าว วาระที่ 2: คณะกรรมการเสนอรายงานของคณะกรรมการเพื่อทราบ ข้อมูลประกอบการพิจารณา: รายงานคณะกรรมการเกี่ยวกับกิจการของ บริษัทฯในรอบปี 2550 ได้แสดงไว้ในรายงานประจำปี 2550 และเพื่อความ สะดวกของผู้เข้าร่วมประชุมฯ จึงได้คัดรายงานดังกล่าวแสดงไว้เป็นเอกสาร ประกอบการประชุมวาระที่ 2 ความเห็นคณะกรรมการ: เห็นสมควรเสนอรายงานของคณะกรรมการ เกี่ยวกับกิจการของบริษัทฯ ในรอบปี 2550 เพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ประจำปี 2551 รับทราบ วาระที่ 3: พิจารณาอนุมัติงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ข้อมูลประกอบการพิจารณา: ข้อบังคับของบริษัทได้กำหนดให้คณะกรรม- การต้องดำเนินการจัดทำงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน ณ วันสิ้นสุดของรอบปี บัญชีของบริษัท ให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบ แสดงความเห็นให้เสร็จสิ้น ก่อน นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปี เพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน ณ วันสิ้นสุดของรอบปีบัญชี 2550 รวมทั้ง คำอธิบาย และการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ได้แสดงไว้ในรายงานประจำปี 2550 ของบริษัท ซึ่งได้จัดส่งให้แก่ผู้ถือหุ้น พร้อมกับหนังสือนัดประชุมใน ครั้งนี้ ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าที่ประชุมผู้ถือ หุ้นสมควรอนุมัติงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ซึ่งผู้ตรวจสอบบัญชีได้ทำการตรวจสอบและแสดงความเห็น โดยไม่มีเงื่อนไขไว้แล้ว วาระที่ 4: พิจารณาจัดสรรเงินกำไรสำหรับปี 2550 และอนุมัติจ่ายเงินปันผล ข้อมูลประกอบการพิจารณา: สืบเนื่องจากการปรับเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชี เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะของบริษัท จากวิธี ส่วนได้เสียมาเป็นวิธีราคาทุน และการปรับปรุงย้อนหลัง ตามประกาศสภา วิชาชีพบัญชี ฉบับที่ 26/2549 และฉบับที่ 32/2549 มีผลทำให้บัญชีกำไร สะสมยังไม่ได้จัดสรรยกมา ณ วันที่ 1 มกราคม 2550 ของบริษัทฯ แสดง ยอดติดลบเป็นผลขาดทุนสะสมจำนวน 1,569,774,212.78บาท (หนึ่งพัน ห้าร้อยหกสิบเก้าล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นสี่พันสองร้อยสิบสองบาทเจ็ดสิบแปด สตางค์) แต่หลังจากที่ได้ดำเนินการโอนสำรองตามกฎหมายจำนวน 200,000,000.-บาท (สองร้อยล้านบาท) และส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 1,369,774,212.78บาท (หนึ่งพันสามร้อยหกสิบเก้าล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นสี่ พันสองร้อยสิบสองบาทเจ็ดสิบแปดสตางค์) มาชดเชยผลขาดทุนสะสมทั้ง จำนวนแล้ว ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550 ส่งผลให้บริษัท สามารถพิจารณาจ่ายเงินปันผลได้ตามปกติเมื่อมีกำไร ในระหว่างปีคณะกรรมการบริษัทได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลรวม 2ครั้ง ครั้งแรกจ่ายตามมติที่ประชุมฯ ครั้งที่ 3/2550 ประชุมเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2550 ซึ่งได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลงวดหลังสำหรับผลการ ดำเนินงานปี2549 ในอัตรา0.40บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงินรวม 800,000,000บาท (แปดร้อยล้านบาท) โดยได้จ่ายเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ครั้งที่ 2 จ่ายตามมติที่ประชุมฯ ครั้งที่ 4/2550 ประชุมวันที่ 6 สิงหาคม 2550 ซึ่งได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2550 ในอัตรา0.50 บาทต่อหุ้นเป็นจำนวนเงินรวม 1,000,000,000บาท (หนึ่งพันล้านบาท) โดยได้จ่ายเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 รวมเป็นเงินปัน ผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายในระหว่างปี 2550 จำนวนรวม 1,800,000,000บาท (หนึ่งพันแปดร้อยล้านบาท) ในปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,104,911,451บาท (สามพันหนึ่งร้อยสี่ล้าน บาทเก้าแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยห้าสิบเอ็ดบาท) เมื่อหักเงินปันผลที่ได้ จ่ายในระหว่างปี จำนวนรวม 1,800,000,000บาท (หนึ่งพันแปดร้อยล้าน บาท) คงเหลือเป็นเงินกำไรที่ยังไม่จัดสรรจำนวน 1,304,911,451บาท (หนึ่งพันสามร้อยสี่ล้านบาทเก้าแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยห้าสิบเอ็ดบาท) ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิของ งบการเงินรวม และมีประเพณีที่จะจ่ายปีละสองครั้ง คือ เป็นเงินปันผลจ่าย ระหว่างกาล เมื่อแจ้งผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี และเป็นเงินปันผล ประจำปีที่ขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญประจำปี จึงเห็นสมควรเสนอให้ที่ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี2551 พิจารณาจัดสรรเงินกำไรสำหรับผลการ ดำเนินงานปี 2550 เป็นเงินปันผลงวดหลัง หลังจากการกันกำไรส่วนหนึ่ง กลับเป็นสำรองตามกฎหมาย ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ประชุมผู้ถือ หุ้นควรพิจารณา 1.) จัดสรรเงินกำไรสำหรับผลการดำเนินงานปี2550 เป็นสำรองตาม กฎหมายให้ครบร้อยละ10ของทุนจดทะเบียน เป็นจำนวนเงินรวม 200,000,000.-บาท(สองร้อยล้านบาท) 2.) เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณา จ่ายเงินปันผลสำหรับผล การดำเนินงานปี2550 งวดหลังอีก 0.55บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงินรวม 1,100,000,000.-บาท (หนึ่งพันหนึ่งร้อยล้านบาท) ซึ่งเมื่อรวมกับเงิน ปันผลจ่ายระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานปี2550 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปีจ่ายสำหรับผลการดำเนินงานปี2550 ในอัตรา 1.05 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงินรวม 2,100,000,000.-บาท(สองพัน หนึ่งร้อยล้านบาท) เพิ่มเติมจากเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายเป็นเงินปัน ผลงวดหลังสำหรับผลการดำเนินงานปี2549 จำนวนเงินรวม 800,000,000.-บาท (แปดร้อยล้านบาท) 3.) คงเหลือเป็นเงินกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรอีกจำนวน 4,911,451บาท (สี่ ล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยห้าสิบเอ็ดล้านบาท) วาระที่ 5 : พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ต้องออกตามวาระ ข้อมูลประกอบการพิจารณา: ข้อบังคับของบริษัท กำหนดให้ 1 ใน 3 ของ กรรมการออกจากตำแหน่งในการประชุมสามัญประจำปีทุกครั้ง และ กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับเลือกเข้ารับตำแหน่งอีกก็ได้ ในปีนี้มีกรรมการที่จะต้องออกตามวาระรวม 4ท่าน ได้แก่ นายวิชัย มาลีนนท์ นายประสาร มาลีนนท์ นายประวิทย์ มาลีนนท์ และนางสาวรัตนา มาลีนนท์ โดยประวัติกรรมการและผลงานในปีที่ผ่านมา ได้แสดงไว้แล้วในเอกสาร ประกอบการประชุมวาระที่ 5 ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้น สมควรตั้ง นายวิชัย มาลีนนท์ นายประสาร มาลีนนท์ นายประวิทย์ มาลีนนท์ และนางสาวรัตนา มาลีนนท์ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระในปีนี้ กลับเข้าเป็น กรรมการต่อไปอีกวาระหนึ่ง วาระที่ 6 พิจารณากำหนดค่าตอบแทนกรรมการสำหรับปี 2551 ข้อมูลประกอบการพิจารณา: ข้อบังคับของบริษัท กำหนดให้กรรมการมี สิทธิได้รับค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งค่าตอบแทน ได้แก่ เงินเดือน เงินบำเหน็จ เบี้ยประชุม เบี้ยเลี้ยง โบนัส สวัสดิการ หรือผลประโยชน์ตอบ แทนในลักษณะอื่นทำนองเดียวกัน โดยที่บริษัทฯได้จ่ายค่าตอบแทน กรรมการในรูปเบี้ยประชุม และเงินบำเหน็จ เท่านั้น ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้ว เห็นว่าที่ประชุมผู้ถือ หุ้นสมควรกำหนดค่าตอบแทนกรรมการสำหรับปี 2551 ดังนี้ ก. เบี้ยประชุม: กำหนดเงินเบี้ยประชุมสำหรับการประชุมคณะกรรมการ บริษัทแต่ละครั้ง ดังนี้ - ประธานกรรมการ 15,000.-บาท(หนึ่งหมื่นห้าพันบาท) ปรับเพิ่ม จากเดิมที่เคยจ่าย8,000.-บาท(แปดพันบาท)อีก7,000.-บาท(เจ็ด พันบาท) หรือคิดเป็น 87.5% - กรรมการท่านอื่นท่านละ 10,000.-บาท(หนึ่งหมื่นบาท) ปรับเพิ่ม จากเดิมที่เคยจ่าย4,000.-บาท(สี่พันบาท)อีก6,000.-บาท(หกพัน บาท) หรือคิดเป็น 150% - เบี้ยประชุมสำหรับกรรมการทุกท่านในคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ดังนี้ ท่านละ 10,000.-บาท(หนึ่งหมื่นบาท) ปรับเพิ่มจากเดิมที่ เคยจ่าย4,000.-บาท(สี่พันบาท)อีก 6,000.-บาท(หกพันบาท) หรือคิดเป็น 150% โดยที่เบี้ยประชุมนี้ให้อยู่ในวงเงินไม่เกิน 1,000,000.-บาท (หนึ่งล้าน บาท) เพิ่มขึ้นจากวงเงินที่เคยกำหนดไว้ในปีก่อน 500,000.-บาท (ห้า แสนบาท) ข. เงินบำเหน็จกรรมการ: เป็นจำนวนเงินรวม 15,000,000.-บาท (สิบห้า ล้านบาท) เท่ากับปีก่อน โดยให้คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรกันเอง ตามความเหมาะสม วาระที่ 7 : พิจารณาแต่งตั้งและกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีสำหรับปี 2551 ข้อมูลประกอบการพิจารณา: ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบได้รับมอบหมาย จากคณะกรรมการบริษัท ให้พิจารณาคัดเลือก เสนอแต่งตั้งและเสนอ ค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีของกลุ่มบริษัทนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ มีความเห็นร่วมกันที่จะเสนอชื่อ ดร.วิรัช อภิเมธีธำรง ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 1378 และ/หรือ นายชัยกรณ์ อุ่นปิติพงษา ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 3196 และ/หรือ นายอภิรักษ์ อติอนุวรรตน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 5202 แห่งสำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ให้เป็นผู้สอบ บัญชีของกลุ่มบริษัท สำหรับรอบปีบัญชี 2551 เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ นายชัย กรณ์ อุ่นปิติพงษา เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทติดต่อกันมาแล้วเป็นเวลา 2ปี อนึ่ง เนื่องจาก ในระหว่างปี 2550 บริษัทย่อยในกลุ่มฯ ได้ดำเนินการกิจการ ร่วมค้าที่ควบคุมร่วมกันกับ บริษัท ซีเนริโอ จำกัด ในนามของกิจการร่วมค้า บีอีซี-เทโร ซีเนริโอ จึงมีค่าสอบบัญชีของกิจการร่วมค้านี้เพิ่มจากจำนวนที่ที่ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี2550ได้อนุมัติไว้อีก60,000.-บาท(หกหมื่นบาท) ค่า สอบบัญชีของทั้งกลุ่มที่จ่ายจริงในปี2550 เป็นจำนวนเงินรวม 5,303,000.- บาท(ห้าล้านสามแสนสามพันบาท) จึงขอแจ้งให้ที่ประชุมทราบ สำหรับค่าสอบบัญชีปี 2551 ของบริษัทและบริษัทย่อยในกลุ่มบีอีซี เวิลด์ ทั้งกลุ่มเป็นยอดรวม 5,500,000.-บาท(ห้าล้านห้าแสนบาท) ปรับเพิ่มขึ้น จากค่าสอบบัญชีที่เกิดขึ้นจริงปีก่อน197,000.-บาท (หนึ่งแสนเก้าหมื่นเจ็ด พันบาท)หรือคิดเป็นปรับเพิ่ม 3.7%ตามการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อ และ เวลาที่ผู้สอบบัญชีต้องใช้เพิ่มขึ้นจากการขยายงาน ปรับโครงสร้างภายใน กลุ่มบีอีซี เวิลด์ และการปรับเปลี่ยนมาตรฐานและกฎระเบียบต่างๆของ หน่วยงานกำกับดูแล โดยเป็นส่วนของบริษัท1,220,000.-บาท(หนึ่งล้าน สองแสนสองหมื่นบาท) ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อน5.17% ความเห็นคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าที่ประชุมผู้ถือ หุ้น สมควรแต่งตั้ง ดร.วิรัช อภิเมธีธำรง ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 1378 และ/หรือ นายชัยกรณ์ อุ่นปิติพงษา ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3196 และ/หรือ นายอภิรักษ์ อติอนุวรรตน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 5202 แห่ง สำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ เป็นผู้สอบบัญชีสำหรับรอบปีบัญชี 2551 และกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชี สำหรับปี 2551 โดยเป็นค่าสอบ บัญชีของบริษัทและบริษัทย่อยในกลุ่มบีอีซี เวิลด์ เป็นยอดรวม 5,500,000.-บาท(ห้าล้านห้าแสนบาท) โดยเป็นส่วนของบริษัท1,220,000.- บาท(หนึ่งล้านสองแสนสองหมื่นบาท) ทั้งนี้การปรับเพิ่มค่าสอบบัญชีนี้ เหมาะสมเป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจ อนึ่ง บริษัทฯ ได้กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้า ร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2551 ตั้งแต่วันอังคารที่ 8 เมษายน 2551 เวลา 12.00 นาฬิกา ไปจนกว่าการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 จะแล้วเสร็จ จึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้นของบริษัท เข้าร่วมประชุมตามวัน เวลา และ สถานที่ ดังกล่าวข้างต้นโดยพร้อมเพรียงกัน สำหรับท่านผู้ถือหุ้นที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุม บริษัทได้เตรียมหนังสือมอบฉันทะ - ตามที่ได้แนบมาพร้อมหนังสือเชิญประชุมฯในครั้งนี้, เพื่อ โปรดพิจารณามอบฉันทะให้ผู้แทนเข้าร่วมประชุม และใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนแทน ซึ่ง อาจจะมอบฉันทะให้แก่กรรมการอิสระของบริษัท โดยกรอกแบบและลงนามในหนังสือมอบ ฉันทะส่งกลับมายังบริษัท พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการมอบฉันทะให้ครบถ้วน ภายใน วันที่ 23 เมษายน 2551ด้วย จักขอบคุณยิ่ง ขอแสดงความนับถือ (นายวิชัย มาลีนนท์) ประธานกรรมการ